เวลาทำการ

จันทร์ - พฤหัส, 8:00 - 16:30 น.

ศุกร์, 8:00 - 15:30 น.

เบอร์โทรติดต่อ

039 311 038

Email

chatchai.s@sm.ac.th
ย้อนกลับ

ฟังก์ชัน IF ใน Google Sheet คืออะไร
      ฟังก์ชัน IF ช่วยให้คุณสามารถทำการเปรียบเทียบตรรกะระหว่างค่าและสิ่งที่คุณคาดหวังไว้ โดยการทดสอบเงื่อนไข และส่งกลับผลลัพธ์ถ้าเป็น true หรือ False

=IF(ถ้ามีบางอย่างเป็น True ให้ดำเนินการอย่างหนึ่ง ถ้าไม่มี ให้ดำเนินการอีกอย่างหนึ่ง)

      ดังนั้นข้อความ IF สามารถให้ผลลัพธ์ได้ 2 แบบ ผลลัพธ์แรกคือ ถ้าการเปรียบเทียบของคุณเป็นจริง ผลลัพธ์ที่สองจะเป็นเท็จ
คำสั่ง IF มีประสิทธิภาพอย่างมาก และสร้างพื้นฐานของรูปแบบสเปรดชีตจำนวนมาก แต่ก็ยังเป็นสาเหตุของปัญหาสเปรดชีตมากมาย โดยปกติ คำสั่ง IF ควรนำไปใช้กับเงื่อนไขที่น้อยที่สุด เช่น ชาย/หญิง ใช่/ไม่ใช่/ไม่แน่ แต่บางครั้ง คุณอาจต้องประเมินสถานการณ์ที่ซับซ้อนกว่าที่ต้องการใช้การซ้อนทับมากกว่าฟังก์ชัน IF 3 ฟังก์ชันรวมกัน

“การซ้อนทับ” หมายถึงหลักปฏิบัติของฟังก์ชันหลายฟังก์ชันรวมกันในสูตรเดียว

ใช้ฟังก์ชัน IF ซึ่งเป็นหนึ่งใน ฟังก์ชันทางตรรกะ เพื่อส่งกลับหนึ่งค่าถ้าเงื่อนไขเป็น จริง และอีกค่าหนึ่งถ้าเงื่อนไขเป็น เท็จ

ไวยากรณ์

CCopy Code
=IF(logical_test, value_if_true, [value_if_false])
 

อาร์กิวเมนต์ การทำงาน
   - logical_test คือ เงื่อนไขที่คุณต้องการทดสอบ
   - Value_if_true คือ ค่าที่คุณต้องการให้ส่งกลับถ้าผลลัพธ์ของ logical_test เป็น TRUE
   - value_if_false คือ ค่าที่คุณต้องการให้ส่งกลับถ้าผลลัพธ์ของ logical_test เป็น FALSE


ตัวอย่าง
     ต่อไปนี้คือตัวอย่างของคำสั่ง IF แบบซ้อนทับมาตรฐานเพื่อแปลงคะแนนสอบของนักเรียนให้เป็นเกรดที่เป็นตัวอักษร

ตัวอย่างการตัเกรด ด้วย Google Sheet ฟังก์ชั่น IF

ฟังก์ชัน IF ตัดเกรด

 

CCopy Code
=IF(D5>=80,"A",IF(D5>=70,"B",IF(D5>=60,"C",IF(D5>= 50,"D","F"))))
 

คำสั่ง IF ที่ซ้อนกันอย่างซับซ้อนนี้ทำตามหลักตรรกะอย่างตรงไปตรงมา

  1. ถ้าคะแนนสอบ (ในเซลล์ D5) มากกว่าหรือเท่ากับ 80 นักเรียนจะได้ A
  2. ถ้าคะแนนสอบมากกว่า หรือ เท่ากับ 70 นักเรียนจะได้ B
  3. ถ้าคะแนนสอบมากกว่า หรือ เท่ากับ 60 นักเรียนจะได้ C
  4. ถ้าคะแนนสอบมากกว่า หรือ เท่ากับ 50 นักเรียนจะได้ D
  5. มิฉะนั้น นักเรียนจะได้ F